กิจกรรมต่างๆ 24 กุมภาพันธ์ 2558
Views : 3119
เช้าวันที่ 3 กิจกรรมที่พวกเราจะทำกันในวันนี้คือ เดินทางไป Kusatsu International Ski Resort ที่ Gunma กันค่ะ ^^
09.30 : ขึ้นรถบัส พร้อมกันเพื่อออกเดินทางค่ะ ที่พวกเราจะเดินทางไปเล่นสกีกันในวันนี้ก็คือ กุมมะค่ะ
** จังหวัดกุมมะ ตั้งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวเพียง 100 กิโลเมตร จังหวัดกุมมะก็เป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยธรรมชาติของต้นไม้ใบหญ้าที่อุดมสมบูรณ์ มีรีสอร์ทบ่อน้ำพุร้อนหลายแห่งที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงามตามธรรมชาติ อันมีชื่อเสียงติดอันดับ ๑ ใน ๓ ของเมืองน้ำพุร้อนประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งเต็มไปด้วยกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาตลอดทั้งปีค่ะ
ที่แวะพักรถ ข้างทางค่ะ ใครหิว หรือ เข้าห้องน้ำก็สะดวกค่ะ
ใกล้ถึงเมืองGunmaค่ะ โดยเราจะต้องขึ้นภูเขาไปยัง Kusatsu Ski Resort ทำให้ 2 ข้างทางขาวโพลนไปด้วยหิมะ
รวมทั้งได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ตามชนบนของชาวญี่ปุ่นที่อยู่ระแวกนั้น และวิวธรรมชาติที่สวยงาม
ถึงแล้วค่ะ Kusatsu International Ski Resort ( ^^/)
ตื่นเต้นค่ะ หนาวแต่ก็ยังไหวกันนะค่ะ โดยอุณหภูมิในวันนี้น่าจะอยู๋ที่ -1 ถึง 2 องศาได้ค่ะ
โดยมาถึงแล้วพวกเราก็มากันที่ ส่วนกลางของทางรีสอร์ท เพื่อมารับชุดสกี และ รองเท้าสโนว์ชู ค่ะ
โดยชุดสำหรับเล่นนั้น จะต้องเป็นชุดที่กันน้ำค่ะ และต้านทานกระเเสลมได้ดี รวมถึงสามารถระบายอากาศภายในได้ดี
วันนี้กิจกรรมที่เราจะทำกันคือ การทดลองใส่ Snow Shoes เพื่อเดินลัดเลาะเดินบนหมะค่ะ
หลังจากที่สวมชุดเเล้วกันเรียบร้อยเเล้ว ก่อนจะเล่น กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้องก่อนค่ะ โดยพวกเราได้แวะทาน อาหารเที่ยงที่ส่วนกลางกัน
** โดยอยากจะบอกว่า ที่นี้มีข้าวกระเพราะ ขายด้วยนะค่ะ ^^*
เมื่อทานอาหารเที่ยงเรียบร้อยร้อย ทุกคนก็ลงมาเตรียมตัวค่ะ อึบๆๆ / ** /
** snowshoeing ถือเป็นกิจกรรมอีกอย่าวที่นิยมมากในช่วงฤดูหนาวค่ะ เป็นกิจกรรมที่ทุคนสามารถเดินสำรวจภูเขา และป่าที่ห่อหุ้มไปด้วยหิมะนั่นเองค่ะ ถ้าโชคดีหน่อย ก็อาจจะได้เห็น สัตว์ป่าตัวน้อยใหญ่ ตามบริเวณนั้นๆ อย่างกระต่าย กระรอก แลคคูน หรือ หมี TT นั่นเองค่ะ โดยการเดินนี้เป็นการออกกำลังกายที่เรียกเหงื่อได้มาก
พวกเราเดินกันเกือบจะ 3-4 ชมได้ค่ะ เพลินเลย หิมะก็เริ่มตกลงมาละค่ะ ถึงเวลาต้องกลับโรงเเรมแล้ว
18.30 : กลับเข้าโรงเเรมค่ะ
โดยโรงเเรมที่เราพักกันนั้้นมีชื่อว่า KO NO HA นั่นเองค่ะ
หลังจากที่แช่ ออนเซนกันเเล้ว ก็มารับประทานอาหารเย็นกันคะ
หลังจากรับประทานอาหารเย็นกันเสร็จ แล้วพวกเราก็มาเดินเล่น กันบริเวณรอบๆโรงเเรมค่ะ บริเวณที่พวกเรานั่งนั้น เป็นมุมของห้องอาหาร ห้องให้นั่งเล่นค่ะตรงมุมที่พวกเรานั่งนั่นเป็นเหมือนโต๊ะ เตาผิงญุ๊่ปุ่นสมัยเก่าค่ะ พอมองออกไปข้างนอกก็จะเห็นแต่หิมะ และดวงไป ประดับสวยงาม โดยทางโรงแรมได้มีการทำ สร้าง KAMAKURA ไว้ด้วยค่ะ และประมาณ 4 ทุ่ม กว่า ทางโรงเเรมก็จะมีบริการ รามเมน ให้ค่ะ อิ่มกันก่อนนอนกันเลยที่เดียว
*** KAMAKURA นั้นก็คือ การจุดเทียนในโคมไฟเล็กๆ ที่ทำจากหิมะ ที่สะท้อนแสงแวววาวของหิมะในช่วงฤดูหนาวค่ะ โดยเทศกาลคามาคุระ (Kamakura Festival) เทศกาลประจำปีที่มีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี เป็นเทศกาลขอบคุณเทพเจ้าแห่งน้ำ และสวดอ้อนวอนขอให้พืชผลอุดมสมบูรณ์ ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเดือนมกราคมจนถึงกุมภาพันธ์ที่เมืองโยโคเตะ(Yokote) จังหวัดอะคิตะ (Akita) นั่นเอง
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*--*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
เช้าวันที่ 4 วันนี้พวกเราก็ยังคงอยู่ที่ Kusatsu International Ski Resort ที่Gunmaเช่นเคยค่ะ ^^
10.00 : รวมตัวกันที่ลอบบี้ของโรงเเรม เพื่อขึ้นรสบัสมายัง Kusatsu International Ski Resort อีกครั้งค่ะ
โดยทางโรงแรมจะมีอหาหารเช้าไว้บริการ ทั้งแบบ อาหารญี่ปุ่น หรือขนมปัง กาแฟแบบตะวันตก ซึ่งก่อนเดินทางไปก็ต้องรับประทานกัน เพื่อเติมพลังให้มีแรงสำหรับวันนี้ที่พวกเราจะไปเล่นสกีค่ะ
เรียนรู้พื้นฐานการเล่นสกีกันใน ช่วงแรกค่ะ *V*
12.00 : พักทานอาหารกลางวัน
ช่วงพักทาน อาหารกลางวัน เราทานกันที่ โรงอหารอีกแห่งที่มีบริการ ขายอาหารค่ะ
ช่วงหลัง เราได้ได้เล่นสกีกันตามอิสระค่ะ หลังจากที่ได้เรียนกันมาแล้ว + ถ่ายรูปก่อนกลับค่ะ
15.00 : ออกจากลานสกี เพื่อมาแถว Yubatake ค่ะ
รูปลักษนะ ของย่านนี้จะคล้ายๆ กับเมืองเก่า ในสมัยก่อนของญี่ปุ่นค่ะ
สองข้างทางปกคลุมไปด้วยหิมะ และถ้าเราเดินขึ้นบันไดไป ก็จะพบกับศาลเจ้าค่ะ
** Yubatake นั้นถือว่าเป็น แหล่งกำเนิดน้ำพุร้อน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองคุซัทสึ และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ สามารถผลิตน้ำพุร้อนได้ถึง 4000 ลิตรต่อนาที และจะถูกส่งไปยังเรียวกัง(โรงแรมแบบญี่ปุ่น) ถ้าลองมาใกล้ๆจะได้ กลิ่นกำมะถัน แรงมากค่ะ
** Yukemuri-tei : เป็นอ่างเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ Yubatake สำหรับแช่มือแช่เท้า ฟรี แช่เท้าแล้วรู้สึกผ่อนคลายมากๆเล้ยยยย
ซึ่งรอบๆบริเวณ จะมีขาย ขนมอละของฝากมากมายค่ะ ดดยที่พลาดไม่ได้ก็คือ มันจูนั้นเองค่ะ กินมัจูร้อนๆ ตอนอากาศหนาวๆช่างดีจริงๆว่าไหมค่ะ --
18.00 : รวมตัวกันเพื่อกลับโรงแรมค่ะ
โดยอาหารที่ทางโรงเเรมจัดให้เราทานนั้นจะเป็น อาหารญี่ปุ่นชั้นสูง หรือที่เรียกว่า ไคเซกิ นั่นเองค่ะ
** "อาหารแบบไคเซกิ" หรือ "ไคเซกิ เรียวริ" คือรูปแบบอาหารของอาหารญี่ปุ่นที่เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของอาหารญี่ปุ่นทั้งหลาย เนื่องจากมีความประณีตทั้งวิธีการเตรียมอาหารและการตกแต่งอาหารในภาชนะเล็กๆ น้อยๆ ที่นำมาเสริ์ฟ ใส่ใจในสีสันของอาหาร สีสันของจานชาม ภาพรวมของอาหาร โดยที่คนปรุงอาหารจะพยายามคิดว่านอกจากความเอร็ดอร่อยแล้ว อาหารไคเซกิยังเป็นงานศิลปะที่สามารถรับประทานได้นั่นเอง คนทานต้องได้รับทั้งความสวยงามที่มองเห็นได้ด้วยตา เหมือนมองงานศิลปะชิ้นหนึ่งนั่นเอง ส่วนสำคัญที่สุดของอาหารประเภทนี้คือ การใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลในท้องถิ่นของตนเองและการดึงรสธรรมชาติของวัตถุดิบต่างๆ ออกมาโดยเชฟจะใส่ใจกับแต่ละฤดูกาลอย่างมาก เนื่องจากอาหารต้องใช้เฉพาะวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นฤดูใบไม้ผลิก็เป็นฤดูกาลของทะเคโนะโขะ (หน่อไม้) แต่ถ้าเป็นฤดูใบไม้ร่วงก็ต้องรับประทานเห็ดมัตสึตะเกะ หรือปลาคัตสึโอะ (ปลาโอ) ในต้นฤดูร้อนนั่นเองค่ะ แม้ว่าอาหารแต่ละจานในชุดอาหารนี้จะเป็นจานเล็กๆ แต่สีสันและการผสมผสานวัตถุดิบต่างๆ วิธีการฝานหรือหั่นวัตถุดิบเพื่อใช้ในการตกแต่ง และภาชนะที่ใส่ล้วนแสดงถึงความประณีตของวัฒนธรรมญี่ปุ่น อาหารร้อนจะเสิร์ฟในขณะที่ยังร้อนอยู่ ส่วนอาหารเย็นจะเสิร์ฟในจานที่แช่เย็นไว้
ที่มา: ๋J-Study
ความหมาย : เพื่อนร่วมงาน